OS: KISS AND TELL (donghyun's bday) youngmin x donghyun
So, then it's all because of you :-)
ผู้เข้าชมรวม
430
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ONE-SHOT: KISS AND TELL
youngmin x donghyun
https://youtu.be/atz_aZA3rf0
สีท้องฟ้ายามหกโมงเย็นมืดครึ้มกว่าปกติไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสาเหตุมาจากกลุ่มก้อนเมฆสีเทาที่ลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า ดวงตาเรียวเหลือบมองร่มในมือสลับกับแหงนมองท้องฟ้าเพื่อพิจารณาสถานการณ์ตอนนี้ อ่า .. ฝนจะตกอีกแล้ว ไม่ทันจะได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ ร่มสีดำคันโปรดก็ถูกกางขึ้นบดบังร่างกายของตนเมื่อสัมผัสได้ถึงหยดน้ำที่ตกกระทบตัวจนเย็นวาบ จริงๆแล้วคิมดงฮยอนออกจะชอบหน้าฝนเพราะอากาศที่เย็นสบาย ไหนจะความชุ่มฉ่ำของหยดน้ำหยดเล็กๆนั่นอีก แต่ถึงแม้การที่เขาถือร่มเพื่อป้องกันตัวเองจากความเปียกชื้นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาย้อนแย้งกับตัวเองเสียเมื่อไหร่กัน เขาแค่ชอบสายฝนไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบให้ตัวเองเปียกสักหน่อย
“ไม่รอพี่อีกแล้วนะ” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้นที่ข้างหูของเขา เส้นผมสีน้ำเงินเข้มเริ่มไม่เป็นทรงเท่าไหร่
ไหนจะหยดน้ำแพรวพราวนั่นที่ติดอยู่บนศีรษะอีกคนอีก เดาไม่ยากเลยว่าคนที่พยายามยัดตัวเองเข้าร่มของเขาในตอนนี้ตั้งใจวิ่งฝ่าฝนออกมาหาเขาชัดๆ
“แล้วทำไมพี่ไม่โทรมาบอกก่อนล่ะว่าจะให้รอ
ร่มก็ไม่ได้เอามา เปียกหมดแล้วเนี่ย” บางครั้งเขาก็คิดว่าร่มสีดำในตอนนี้อาจจะเล็กไปเสียหน่อยสำหรับผู้ชายสองคนที่สูงร้อยแปดสิบกว่า
คนข้างเขาไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่พยายามรั้งตัวเขาให้เข้ามาในร่มได้เต็มตัวทั้งที่ตัวของอีกฝ่ายก็ดันเปียกไปครึ่งซีก
ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั่นทำให้เขามีความสุขได้เสมอไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่
หรือแม้ในกระทั่งตอนนี้ก็ตาม
“ใช้ร่มแฟนก็อบอุ่นดีออก” อีกฝ่ายพูดออกมาด้วยอาการติดตลก เขาเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของอีกคนก่อนจะหันกลับมาก้มหน้าอมยิ้มในระหว่างที่เดินไปด้วยกัน
ไม่รู้ว่าเขาเก็บอาการไม่อยู่หรือว่ายังไงทำให้บุคคลที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นแฟนของเขาชะงักฝีเท้าไปก่อนจะหันมามองเขากลับ
ดวงตาเรียวช้อนมองใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
พี่ยองมินไม่ได้พูดอะไรอีกตามเคยเพียงแต่จ้องมองใบหน้าของเขาอยู่ใต้ร่มสีดำที่กางสู้สายฝนอยู่ในตอนนี้
ดวงตากลมโตที่เขาชอบนักหนากำลังจ้องมองเขาด้วยความรู้สึกอย่างไรเขาเดามันได้ถูก มันไม่ใช่เป็นเรื่องที่แย่แต่เพียงแค่เขาไม่เคยจูบ
ใช่ นั่นคือความจริงข้อที่หนึ่ง
“อยากจูบเหรอ” เขาเอ่ยถามอีกคนขึ้น
แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ พี่ยองมินไม่ได้ตอบคำถามของเขาเพียงแต่เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เขามากขึ้น
ระยะห่างระหว่างกันเหลือเพียงแค่ปลายคืบ เขาไม่ได้เบือนหน้าหนีแบบที่เคยทำมาตลอดเวลาที่คบกัน
นั่นมันทำให้อีกฝ่ายลังเลใจเล็กน้อยและเลือกที่จะเว้นระยะห่างไว้แบบนั้นสักพักก่อนจะผละตัวยืดขึ้นดังเดิม
จริงๆแล้วเขาไม่ได้กลัวการจูบ เพียงแค่กลัวความรู้สึกหลังจากนั้นที่จะก่อตัวขึ้น บทความสั้นๆทางทวิตเตอร์หรือแม้กระทั่ง
storylog ที่มักจะบรรยายห้วงความรู้สึกเวลาจูบกับใครสักคนมันทำให้เขาอยากลิ้มลอง
และเพราะความอยากลิ้มลองนั้นมันเลยทำให้เขากลัวที่จะเริ่มและกลัวว่าจะเสพติดมันเข้าสักวัน
“ก็อยาก แต่ถ้าเรายังไม่อยากจูบ
พี่ก็จะยังไม่จูบ”
“ถึงแม้บรรยากาศตอนนี้มันจะน่าจูบมากก็เถอะ”
คำพูดสองสามประโยคที่ถูกพูดขึ้นมาเมื่อสักครู่ทำให้เขารู้สึกร้อนวูบวาบอยู่บนใบหน้า
มันก็เป็นจริงอย่างที่อีกฝ่ายพูด
บางทีการที่เขาไม่ได้เบือนหน้าหนีอาจจะเป็นเพราะบรรยากาศรอบข้างหรือเปล่านะ
ใช้เวลาเดินเพียงไม่นาน
ที่หมายสำคัญในทุกวันก็คือบ้านของเขา เป็นความจริงข้อที่สองที่พี่ยองมินมักจะมาส่งเขาที่บ้านทุกเย็นถึงแม้ว่าบ้านของเราจะอยู่กันคนละทิศก็ตาม
มือของอีกฝ่ายส่งคันร่มมาให้เขาทำให้เขาตกใจเล็กน้อยเพราะการที่อีกคนส่งร่มมาให้แบบนั้นทั้งที่ฝนยังไม่หยุดตกน่ะ
มันทำให้เปียกเป็นหมาเลยไม่ใช่หรือไงกัน ทำให้ดงฮยอนอดดุยองมินในใจไม่ได้เลย
“พี่เอาร่มไปเลย เนี่ยไม่ยอมพกร่ม
ยังยัดตัวมาในร่มเราอีกแถมตัวเองก็เปียกแล้วนี่ยังจะมาคืนร่มให้เราอีกเหรอ
เอาร่มเราไปเลย”
“ถ้าพี่เอาร่มหนูไปแล้วพรุ่งนี้หนูจะมีร่มใช้เหรอ”
“สิ่งที่เราต้องถามพี่คือทำไมพี่ไม่ยอมพกร่มเล่า”
“ก็บอกแล้วว่าอยากอยู่ใต้ร่มเดียวกับแฟน”
เขาถึงกับส่ายหัวให้กับอีกคนที่กำลังยืนต่อล้อต่อเถียงอยู่หน้าบ้านพลางก้าวขาเข้าไปชิดตัวกับอีกคนมากขึ้น
ความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่กระจายจากการสวมกอดอีกคนนั่นทำให้เขารู้สึกดีแทบบ้าแต่เขามักจะทำแบบนี้เสมอเวลาที่พี่ยองมินชอบงอแงเป็นเด็กน้อย
จริงๆแล้วเขาเลือกจะปล่อยเบลอก็ได้ ความจริงข้อที่สามในวันนี้ของดงฮยอนคือเขาชอบกอดพี่ยองมิน
“พรุ่งนี้วันเกิดแล้วนี่อยากได้อะไรมั้ย”
อีกฝ่ายเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอียงศีรษะมาซบกับศีรษะของเขาเล็กน้อยทั้งที่เรากำลังกอดกันอยู่
ไหนจะมือนั่นที่กำลังลูบผมของเขาไปมานั่นอีกทำให้เขาแทบจะลืมคำถามของอีกฝ่ายที่เอ่ยขึ้นไปเสียเต็มประดา
“หือ” ยองมินหัวเราะร่วนในลำคอเมื่อรู้ว่าเขาใกล้จะเคลิ้มเต็มที
“เข้าบ้านได้แล้วยืนตากละอองฝนนานๆเดี๋ยวก็เป็นไข้กันพอดี”
“พี่ก็คงจะไม่สบายคนแรกเลยไม่ใช่เราสักหน่อย”
ผละตัวออกจากอีกคนก่อนจะยืนกอดอกมอง ไม่ต้องใช้คำพูดอะไรมากมายยองมินก็รู้ว่าเขากำลังต้องการอะไร
แขนแกร่งถูกจับดึงให้เข้ามาในตัวบ้าน ร่มสีดำนั่นไม่ได้ถูกคว้าเข้ามาแต่อย่างใด
ยองมินนั่งรอบนโซฟาในขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปเอาผ้ามาเพื่อเช็ดผมของอีกฝ่าย
“บริการดีจัง” ยองมินเอ่ยขึ้นพร้อมเงยหน้ามองคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง
“ก็กลัวคนแถวนี้ป่วย”
“อืม นั่นน่ะสิถ้าป่วยก็จะจูบไม่ได้”
คำว่าจูบถูกกล่าวขึ้นเป็นครั้งที่สองของวัน
ดงฮยอนชะงักมือที่กำลังเช็ดผมให้อีกฝ่ายเล็กน้อยทำให้อีกฝ่ายเกิดสงสัยในท่าที
ดวงตากลมเงยสบคนด้านบนก่อนจะยิ้มเล็กน้อย
“ก้มลงมาจูบหน่อย” ดงฮยอนไม่อาจเดาทางได้ถูกว่าอีกคนกำลังเล่นหรือว่าอย่างไร ดวงตาของอีกฝ่ายที่เขารักนักหนาจ้องมองมาอย่างไม่ละสายตา
น้ำลายอึกใหญ่ถูกกลืนลงคออย่างประหม่า
ความรู้สึกที่ห้ามไม่ได้ตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง อยากลิ้มลองก็อยากแต่ความกลัวก็ยังไม่หายไปจากความรู้สึก
สุดท้ายแล้วริมฝีปากของเขาก็ได้แค่จรดลงบนหน้าผากของอีกคนอย่างแผ่วเบา
“จูบแล้วนะ”
.
.
.
.
‘วันนี้รอพี่ด้วย’ เท็กซ์ข้อความที่เด้งขึ้นเรียกรอยยิ้มของเขาอย่างอัตโนมัติ เพื่อนสนิทของเขาที่นั่งอยู่ด้านข้างที่เหลือบมองมาพอดีเอ่ยแซวเขาจนเขาต้องซ่อนความเขินอายด้วยการก้มหน้าฟุบกับโต๊ะ
“อิจฉาดงฮยอนจังเลยเนอะ
มีแฟนดีๆแบบพี่ยองมินเนี่ย”
“อื้อ” เสียงอู้อี้ของเขาตอบรับประโยคบอกกล่าวของเพื่อนสนิทก่อนที่ความรู้สึกเปียกชื้นที่เกิดขึ้นที่หลัง
ทำให้เขาต้องสะดุ้งตัวขึ้นมา ผลงานศิลปะชิ้นเอกด้วยครีมเค้กที่ปัดป่ายไปทั่วแผ่นหลังของเขาทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปหยิกเพื่อนสนิทของเขาที่ยืนปั้นยิ้มพร้อมกับเพื่อนในเซคที่ต่างพากันร้องเพลงแฮปปี้เบิดเดย์
แต่เหมือนว่าเค้กก้อนแรกจะเป็นแค่การเปิดสนามเพราะในตอนนี้สิ่งที่อยู่หน้าเขาคือเค้กรสชาติโปรดพร้อมปักเทียนเลขยี่สิบเอ็ดที่ถูกจุดด้วยไฟสีส้มอ่อนนั่นมันทำให้เขารู้สึกดีจนเก็บรอยยิ้มเอาไว้ไม่ได้
“แฮปปี้เบิดเดย์นะดงฮยอน”
“ขอให้มีความสุขมากๆ”
“กินอิ่มนอนหลับในทุกวันแล้วก็ขอให้พี่ยองมินดูแลดงฮยอนดีๆเลย!”
เขาหัวเราะร่วนกับคำอวยพรที่ถูกเอ่ยขึ้นจากเพื่อนในเซคหลายคน
และแน่นอนว่าคำอวยพรสุดท้ายจะมาจากใครไม่ได้นอกจากเพื่อนสนิทตัวดีของเขานั่นแหละ
เสื้อผ้าที่เปื้อนไปด้วยครีมเค้กถูกผลัดเปลี่ยนออกเมื่อเพื่อนของเขาเตรียมการมาอย่างดีด้วยการซื้อยูนิฟอร์มมาให้ใหม่
จริงๆเขาแอบขำกับความลงทุนนี้เล็กน้อยเมื่อคิดดูแล้วว่าก็ไม่ค่อยจะคุ้มทุนสักเท่าไหร่กับการเซอร์ไพร์สแบบเปรอะเปื้อนแบบนี้
แต่ว่า .. ถ้าเพื่อนเขาคิดว่าอะไรดีเขาก็ว่าดีแล้วกันน่ะนะ
‘อยู่ไหน ลงมารอหน้าตึกแล้ว
กลับบ้านกัน’ เสียงแจ้งเตือนเมสเสจที่ดังขึ้นทำให้เขาต้องรีบคว้าจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดู
จริงๆแล้วไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใครที่เท็กซ์มาในเมื่อชีวิตของเขาก็แทบไม่ได้แชทคุยกับใครนอกจากพ่อแม่พี่ยองมินแล้วก็เพื่อนสนิทของตน
สองเท้ารีบก้าวเดินลงจากอาคาร จากชั้นสามไปถึงชั้นหนึ่ง ดวงตาเรียวหรี่มองผ่านกระจกพร้อมคลี่ยิ้มออกเมื่อพบกับคนที่ต้องการจะเจอมากที่สุด
ฝีเท้าถูกเร่งให้เร็วขึ้นเพื่อที่จะไปหาคนที่กำลังยืนหันหลังให้กับเขา
ริมฝีปากอิ่มกำลังจะเอื้อนเอ่ยชื่อของอีกฝ่ายกลับหยุดชะงักเมื่อมีหญิงสาวก้าวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าแฟนของเขา
เขาไม่ได้หลบหรือว่าเข้าไปขัดจังหวะการคุยของคนสองคน เพียงแต่ยืนมองอยู่แบบนั้น ก็แค่คิดว่าจะรอเวลาที่คุยกันเสร็จก็จะเข้าไปหาพี่ยองมินแค่นั้นเอง
สองนาที
สามนาที
ไล่ไปจนถึงห้านาทีกับภาพที่หญิงสาวตัวเล็กผมสีทองคนนั้นกอดแขนพี่ยองมินอย่างสนิทสนมพร้อมกับใบหน้าที่เคลื่อนเข้าใกล้พี่ยองมินมากขึ้น
เพียงเท่านั้นเขาก็ไม่สามารถยืนอยู่ที่เดิมได้อีกต่อไป ดวงตาเรียวไม่ได้มองสบกับสิ่งรอบข้างเพียงแต่มองปลายเท้าที่กำลังก้าวเดินของตน
แรงลมเล็กๆที่ตีสวนเป็นเครื่องบ่งบอกว่าเขาได้เดินผ่านอีกฝ่ายไปอย่างคนไม่รู้จัก
วันนี้เป็นอีกวันที่ฝนตกหนักและเขาเลือกที่จะไม่กางร่ม แรงดึงรั้งที่แขนไม่ได้มีผลอะไรทำให้เขาต้องหันกลับไปมอง
ดวงตาเรียวเอาแต่ก้มมองปลายเท้าตนอยู่อย่างนั้น ภาพที่พร่าเบลอพร้อมกับความรู้สึกเจ็บแปลบอยู่ในอกเป็นความรู้สึกที่เขาไม่อยากจะพบเจอมันอีกครั้ง
“ทำไมไม่กางร่ม”
“ทำไมเดินหนีพี่”
“เราขอโทษ” เอ่ยทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่แบบนั้น
เขาไม่อยากจะหันกลับไปมองใบหน้าของอีกฝ่ายเลยสักนิดเดียว ไม่มีเหตุผลอะไรรู้แต่ว่าแค่ไม่อยาก
เขารู้ว่าเขากำลังงี่เง่า ไร้เหตุผลและกำลังหวงอีกคนเพราะแบบนั้นมันเลยทำให้เขาไม่อยากจะพูดคุยอะไรด้วยมากนัก
“ร่มอยู่ไหน ถึงบ้านแล้วค่อยคุยกัน”
.
.
.
.
“เป็นอะไรไหนบอกพี่หน่อยเร็ว” สถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างที่จะอึดอัดแต่บางทีเขาคิดว่ามันอาจจะมีแค่เขาคนเดียวที่กำลังรู้สึกอึดอัดเสียมากกว่า
เมื่ออีกคนไม่ได้มีท่าทางรู้ร้อนรู้หนาวอะไรเสียด้วยซ้ำ คำถามในใจตีผุดขึ้นมามากมายแต่ในตอนนี้เขาทำได้แค่นั่งก้มหน้าเก็บทุกอย่างเอาไว้
อยากรู้แต่ไม่อยากถาม คิมดงฮยอนเป็นแบบนั้น
แรงยวบของโซฟาที่นั่งข้างเขาทำให้เขารู้ว่าในตอนนี้อีกฝ่ายย้ายตัวมานั่งอยู่ข้างตัวของเขา
มือของอีกคนเลื่อนมาจับมือของเขาที่วางบนหน้าขาเอาไว้ แรงบีบเบาๆทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายอยู่ไม่น้อยในเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่กุมมือเขาอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่พูดอะไรเลยสักอย่าง
ดวงตาเรียวสบขึ้นมองเสี้ยวหน้าของอีกคนจนสายตาของอีกคนสบมาที่เขาเช่นเดียวกัน ใบหน้าที่เคยแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอตอนนี้กลับเรียบตึงเสียจนเขาทำตัวไม่ถูก
“บอกพี่ได้หรือยังว่าโกรธอะไรถึงเดินหนีพี่ไปแบบนั้น”
“เราก็รู้ว่าเราป่วยง่าย ทำไมยังเดินตากฝนอีก”
“เค้กที่เพื่อนให้มาก็เปียกน้ำหมดแล้วดงฮยอน”
“ทำไม—” เสียงทุกอย่างถูกกลืนลงลำคอของอีกฝ่ายลงไปเสียหมด
ความรู้สึกหึงหวงที่เกิดขึ้นในตอนที่เห็นอีกฝ่ายโดนผู้หญิงวอแวอยู่แบบนั้นทำให้เขาลืมทุกอย่างไปหมดสิ้น
รู้แค่ว่าหวง หวงจนไม่อยากให้ใครมายุ่มย่าม หวงจนไม่อยากให้ใครมาโดนตัวอีกฝ่าย หวงจนอยากครอบครองริมฝีปากอีกฝ่ายเอาไว้แบบที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้
ความไม่ประสีประสากับการจูบครั้งแรกของดงฮยอนทำได้แค่แตะริมฝีปากลงไปอย่างแผ่วเบาก่อนจะผละออกพร้อมซุกหน้าลงบนไหล่กว้างของอีกฝ่ายด้วยความเขินอาย
เสียงหัวเราะของยองมินดังขึ้นพร้อมกับความอบอุ่นจากฝ่ามือที่ไล้ลากไปทั่วแผ่นหลังของเขาอย่างได้ใจยิ่งทำให้เขาไม่อยากเงยหน้าขึ้นมามองอีกคนเลยสักนิด
“ดงฮยอน ผู้หญิงคนนั้นน่ะ น้องรหัสพี่เอง
เธอพึ่งกลับมาจากอเมริกา” เหมือนว่ายองมินจะรู้ทันเขาไปเสียทุกเรื่อง
ทอปปิคที่ถูกเอ่ยขึ้นมาจากปากอีกคนทำให้เขาสนใจจะฟังทั้งที่ยังซบหน้าลงบนบ่าของอีกฝ่ายอยู่
นิ้วเรียวลากไล้ไปยังฝ่ามือหนาของอีกคนก่อนจะประสานมือของตนกับอีกฝ่ายเอาไว้
“ไม่มีอะไรจริงๆนะ”
“ทำไมเธอต้องเอาหน้าไปใกล้พี่ด้วย”
เขาเสียเซลฟ์เล็กน้อยเมื่อจู่ๆหลังจากยองมินฟังคำของเขาแล้วกลับหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี
ใบหน้าหวานละออกจากตัวของอีกคนพร้อมมองใบหน้าอีกคนที่กำลังดูชอบใจนั่นอย่างไม่เข้าใจอะไรมากเท่าไหร่นัก
“ไม่มีอะไรเลย ถ้าให้พูดจริงๆก็คือ”
“คือ?”
“ปกติก็เล่นกันแบบนั้น ทำเหมือนจะกระซิบอะไรแต่สุดท้ายเป่าลมใส่หน้า
เหม็นมากๆ” ดงฮยอนขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำตอบที่ฟังดูเหมือนจะไม่เข้าท่าเสียเท่าไหร่
“ไม่เชื่อเหรอ”
“เธอมีแฟนแล้ว
ไม่เชื่อก็จะเปิดไอจีให้ดู” ไม่พูดเปล่าหน้าจอมือถือของอีกฝ่ายก็โชว์รูปภาพของหญิงสาวผมทองเมื่อสักครู่พร้อมกับแฟนหนุ่มในท่าทางที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ของเขาทั้งสอง
อันที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้จะเข้าใจผิดว่าแฟนของเขามีคนอื่นเสียเมื่อไหร่กัน
เพียงแต่หวงไม่อยากให้ใครมาวอแวแบบนั้นตั้งหาก
“พี่ยองมิน”
“หืม”
“อยากได้ของขวัญวันเกิด”
“เดี๋ยวออกไปซื้อให้”
“ไม่เอา จูบกันนะ”
END
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ค่ะ อารมณ์แต่งฟิคชอบมาตอนฝนตก จริงๆเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยชั่ววูบมากจริงๆ
ภาษาอะไรอาจจะงงๆนิดหน่อยขอโทษด้วยนะคะไม่ได้แต่งน๊านนาน y_y
แล้วก็ลิ้งค์เพลงที่แปะไว้น่ะค่ะไม่ได้เกี่ยวกับฟิคหรอกค่ะแต่เพราะดี อยากให้ลองฟังกัน
อีกไม่กี่วันวันเกิดน้องดงแล้วนะคะ :3 ค่ะบอกเฉยๆ 555555555555555555+
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ochqx ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ochqx
ความคิดเห็น